วันเกิด..
เดือน5..เป็นเดือนพิเศษสำหรับผม มันเป็นเดือนที่มีวันสำคัญ ของคนสำคัญอยู่
วันที่9
ผมอยากจะมอบของขวัญสุดพิเศษ ที่ผมตั้งใจ และตัดสินใจเลือกมันมาแล้ว เพื่อคนคนนั้น…
ในเวลาเที่ยงคืน เสียงแจ้งเตือนของเมล์ และไลน์ ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มือเล็กเปิดหน้าจอมือถือกดอ่านข้อความเหล่านั้นด้วยรอยยิ้ม ในระหว่างที่นั่งอยู่ในรถของคุณผู้จัดการ เพื่อรอกลับบ้าน
“สุขสันต์วันเกิดนะยามาดะคุง” ผู้จัดการเปิดประตูรถเข้ามา พร้อมเค้กกล่องเล็ก ที่ผูกโบว์ไว้อย่างน่ารัก บนหน้าเค้ก ตกแต่งด้วยสตรอว์เบอร์รี่ที่เขาชอบ และเขียนคำอวยพรเล็กๆน้อยๆไว้บนนั้น
“ขอบคุณมากเลยครับ” ยามาดะรับของขวัญมาด้วยรอยยิ้ม
ในระหว่างกลับบ้าน เขาก็ได้นั่งอ่านและตอบข้อความอวยพรวันเกิดของคนรู้จักที่ทะยอยส่งมาให้เขาจาก หลายช่องทาง
แต่รอยยิ้มก็ค่อยๆเจือนลงไป เพราะในบรรดาข้อความเหล่านั้น กลับไม่มีของคนที่เขารอคอย
..ลืมงั้นเหรอ..
..ไม่สิ อาจกำลังยุ่งอยู่ก็ได้..
ยามาดะเก็บมือถือใส่กระเป๋า มือเล็กถือกล่องเค้กไว้หลวมๆ ความรู้สึกเหงา น้อยใจ และความพยายามที่จะเข้าใจ ก่อตัวขึ้นและปะปนกันอยู่ในหัว
ยูโตะก็เป็นแบบนี้บ่อยๆไม่ใช่เหรอ…ถึงพวกเราจะรู้ใจตัวเองและตกลงคบกันแล้ว แต่ความสัมพันธ์ต่างๆกลับไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป แม้จะติดต่อกับบ่อยขึ้น คุยกันบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่ได้หวาน หรือแสดงความรักออกมาจนทำให้รู้สึกเขินอายได้ พวกเราก็ยังคงเป็น ยูโตะยามะแห่งวงHey! Say! JUMP ที่ยุ่งอยู่กับงาน ทั้งของวง และของตัวเอง
มีเวลาว่างที่ไม่ตรงกัน การเจอหน้ากันแต่ละครั้งส่วนใหญ่จะเป็นการอัดรายการและถ่ายนิตยสารของวง จากนั้นก็แยกย้าย … ถึงจะดีใจที่อย่างน้อยก็ได้เจอกัน แต่นั่นก็เป็นการเจอเพราะเรื่องงาน พวกเราได้คุยกันไม่มาก และแสดงออกไม่ได้ ถึงเมมเบอร์จะรู้เรื่องที่เราคบกัน แต่ว่าจะให้เราแสดงความรักต่อหน้าทุกคนก็ดูจะไม่เหมาะสม ที่พอจะทำได้ คือทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เหมือนที่เราเคยเป็นเพื่อนกัน …
ยามาดะลงจากรถ แล้วโค้งขอบคุณผู้จัดการ ร่างเล็กเดินเข้าตัวตึกไปด้วยความอ่อนเพลีย แต่เมื่อถึงหน้าประตูห้อง กลับเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งติดไว้อยู่ เมื่อหยิบมาอ่านดูรอยยิ้มเขินๆก็ปรากฏบนริมฝีปากสวย
( สุขสันต์วันเกิดนะ โตขึ้นอีกปีแล้วน้า~^^ ฉันหวังว่ายามะจังจะมีความสุขเพิ่มขึ้น ฉันอยากให้ยามะจังดูแลสุขภาพมากๆ
เป็นห่วงมากรู้มั้ยครับ )
แม้จะไม่ได้ลงชื่อ แต่เขาก็จำลายมือนี้ได้ ยามาดะไขประตูห้องเข้าไป และเปิดไฟ เขาเจอกระดาษแผ่นเล็กอีกแผ่นติดไว้ใกล้ๆสวิตช์ เรียวคิ้วขมวดเล็กน้อย
“เจ้าบ้านั่นเข้ามาเหรอเนี่ย” ถึงยามาดะจะให้กุญแจสำรองกับยูโตะไว้ แต่ก็ไม่เคยเลยที่ยูโตะจะเข้ามาเองโดยไม่ขออนุญาต มือเล็กเอื้อมหยิบมาอ่าน
(มีบางอย่างรออยู่ในตู้เย็น เปิดสิๆ)
ยามาดะยิ้มขำกับการเล่นแบบเด็กๆของยูโตะ ก่อนจะพาตัวเองมาหน้าตู้เย็นและเปิดมันออก ในนั้นไม่มีสิ่งที่บ่งบอกว่าเป็นของขวัญ นอกจากน้ำเปล่าขวดหนึ่ง ที่มีกระดาษติดอยู่
(กลับมาเหนื่อยๆกินน้ำให้ชื่นใจก่อนนะครับแล้วค่อยนั่งพักที่โซฟา)
“เล่นบ้าอะไรของนายเนี่ยเจ้าบ้า!”
ยามาดะทำตาม และเดินไปที่โซฟา แต่ที่นั่นไม่มีกระดาษ หรือข้อความ หรือของขวัญอะไรวางอยู่ หัวใจของยามาดะ รู้สึกโหวงแปลกๆ เขาอยากให้ยูโตะเล่นบ้าๆแบบนี้ต่อไปอีกหน่อย แต่ก็ไม่มี … ร่างเล็กวางกล่องเค้กของผู้จัดการไว้บนโต๊ะ ก่อนทิ้งตัวนั่ง ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และหลับตาเพื่อขจัดความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว
แต่จู่ๆก็มีมือใหญ่ของใครคนหนึ่งมาปิดตาเขาไว้
“เฮ้ย!ใครวะ!!” ร่างเล็กตกใจและพยายามจะดิ้นหนี้
“ใจเย็นๆสิยามะ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหู ร่างเล็กหยุดดิ้นในทันที พร้อมกับมือปริศนาที่คลายออก
“ยูโตะ!!! นาย..นายอยู่ในนี้ได้ยังไง!” ร่างเล็กผุดลุกขึ้นพร้อมชี้หน้าถามยูโตะด้วยความตกใจ
“นี่นอนน้อยจนเพี้ยนรึไงกัน ก็ฉันมีกุญแจไง ไม่งั้นจะเข้ามาเขียนกระดาษแปะได้ยังไงเล่า ให้ไว้เองแท้ๆ”
“ไม่!..ฉันหมายถึงทำไมนายยังอยู่ที่นี่ต่างหาก!”
“ก็ยังไม่ได้ให้ของขวัญกับยามะจังเลยไง”
เพราะมีโซฟากั้นกลาง ระยะห่างของทั้งสองจึงมีอยู่มาก ยูโตะปีนข้ามโซฟาตัวใหญ่ไปยืนตรงหน้าร่างเล็กพร้อมรอยยิ้มสดใส
“ไหนล่ะ” ยามาดะดูซ้ายดูขวา ก็ยังไม่เจอสิ่งที่น่าจะเป็นของขวัญจากยูโตะ
คนตัวสูงฉีกยิ้มมากกว่าเก่า จากนั้นล้วงมือเข้าไปที่กระเป๋ากางเกงก่อนหยิบบางอย่างออกมา หัวใจดวงเล็กเต้นถี่รัว.. ก่อนจะมองบน เมื่อเห็นคนตัวสูงหยิบกิ๊บริบบิ้นโบว์สีแดงสดขึ้นมาติดผม ดูฟรุ้งฟริ้งชอบกล
“ทำอะไรของนาย…”
“ก็ของขวัญไง”
“กิ๊บเหรอ?”
“ไม่ใช่สิ…ฉันต่างหาก”
ร่างสูงเอื้อมจับมือเล็กมากุมไว้ทั้งสองข้างเบาๆ พร้อมกับระยะห่างที่ลดลง
“สุขสันต์วันเกิดนะยามะจัง ปีนี้ฉันขอมอบของขวัญชิ้นนี้ให้นะ ฉันรับรองเลยว่ามันมีประโยชน์มากกว่าที่คิด! โอ๊ย!”
ยามาดะเตะไปที่ขายูโตะไม่แรงมากนัก
“เจ้าบ้ากำลังจะซึ้งนะ!”
“ครับๆ คือจะบอกว่า …ฉันรักยามะจังนะ ฉันอยากเป็นของขวัญในชีวิตของยามะจังนะ อยากทำให้ยามะจังยิ้ม หัวเราะ มีความสุข และคอยดูแลยามะจังได้ นายจะรับฉันเป็นของขวัญได้มั้ย…”
..เจ้าบ้าๆๆ ประโยคอะไรแบบนี้เหมือนขอแต่งงานเลยนะ..
ใบหน้าสวย เห่อร้อนขึ้นมาจนไม่สามารถที่จะทนสบตาร่างสูงได้อีกต่อไป ยามาดะหยุกหยิกตัวไปมา พร้อมกัดริมฝีปากล่างน้อยๆด้วยความเคยชินเวลาทำตัวไม่ถูก
“คำตอบล่ะ หืม..” ร่างสูงก้มหน้าลงมาเพื่อจะได้สบตาร่างเล็กใกล้ๆ
“อะ..อะไรเล่า! คือ ..คือ …” ปลายเสียงนั้นเบาจนไม่ได้ยิน
“อะไรนะ ไม่ได้ยินเลย” ถึงยูโตะจะรู้คำตอบดี แต่ขอแกล้งสักหน่อยแล้วกัน ถ้าจะน่ารักขนาดนี้นะ
“..ก็ได้” ตอบไปด้วยเสียงกระซิบ
“ห๊ะ ขออีกทีซิ”
“เออ!!! รับก็รับเว้ย!เจ้าบ้า!!” ร่างเล็กตะโกนใส่หูคนขี้แกล้ง พร้อมทำแก้มป่องด้วยความหมั่นไส้
“โอ๊ยย โอเคๆ .. ขอบคุณนะเรียวสุเกะ
“อะ..อื้ม ขอบคุณเหมือนกันนะ”
“กอดได้มั้ย..”
“ได้..ได้อยู่แล้ว” ร่างสูงดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเบาๆ และค่อยๆกระชับให้แน่นขึ้นอย่างทะนุถนอม จมูกโด่งสูดกลิ่มหอมจากเส้นผมนุ่มอย่างรักใคร่ ใบหน้าสวยซบกับอกกว้างจนได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรง
..ของใครกันนะ..
ยูโตะค่อยๆคลายอ้อมกอดออก มือใหญ่เลื่อนมากุมหัวไหล่มน ทำให้ทั้งสองสบตากันในระยะที่ใกล้ชิด
นิ้วหัวแม่มือขวาค่อยๆลูบไล้ริมฝีปากล่างสีสดนั้นอย่างเบามือ
“จูบได้มั้ย..” ความเขินอายเข้าจู่โจมยามาดะอย่างไม่ทันตั้งตัว มือเล็กจับเสื้อร่างสูงแน่น ใบหน้าร้อนวูบวาบและไม่กล้าสบสายตา ทำได้เพียงก้มหน้าหลบ ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการอนุญาต
ร่างสูงยิ้มด้วยความเอ็นดูกับปฏิกิริยาน่ารักแบบนี้ ปลายนิ้วเรียวเชยคางมนให้เงยขึ้นมาเพื่อสบตา ความวูบไหวในดวงตากลมโตนั้นสะท้อนถึงความตื่นเต้น ประหม่า และความกลัวเล็กๆแฝงอยู่
ใบหน้าคมค่อยๆโน้มเข้าไปหา จนริมฝีปากทั้งคู่สัมผัสกัน…
ยามาดะทั้งกลัว ทั้งตื่นเต้น และประหม่า ความนุ่มนิ่มที่สัมผัสเข้ามาเหมือนเวลาหยุดชะงัก มือเล็กกำชายเสื้อร่างสูงแน่นขึ้น ยามที่ริมฝีปากนั้นค่อยๆไล่งับริมฝีปากบนล่างเบาๆ เหมือนเรี่ยวแรงกำลังจะหายไป มือเล็กนั้นเปลี่ยนมาเป็นเกาะเกี่ยวที่ไหล่กว้างแทนเพื่อช่วยพยุงตัวเองไม่ให้ทรุด … มือหนาของยูโตะประคองท้ายทอยของยามาดะไว้ อีกข้างก็กระชับเอวคนตัวเล็กให้เข้ามาแนบชิดมากขึ้นจนแทบไม่เหลือช่องว่างใดๆ
ในยามที่รู้สึกเหมือนอากาศไม่พอ ยามาดะก็เผลอ อ้าปากน้อยๆเพื่อสูดอากาศเข้าไป แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ยูโตะได้ลุกไล่มากขึ้น..
“อือ…อืมมม”
ความหวานที่เพิ่มขึ้นทำให้ยามาดะไร้เรี่ยวแรง ยูโตะค่อยๆประคองร่างเล็กนอนลงที่โซฟาตัวใหญ่ โดยที่ยังไม่ถอนจูบ มือหนาลูบไล้สีข้างให้ชวนจักจี้ แล้วค่อยๆสอดเข้าไปในเสื้อเพื่อสัมผัสผิวนุ่มเนียนเรียบที่ร้อนผ่าว ..
“อื้ม!…ยะ ยูโตะ อย่า” ยามาดะดึงสติตัวเองกลับมา พร้อมร้องห้ามยูโตะด้วยเสียงหอบกระเซ้า
“คือ .. ฉันยังไม่พร้อม แล้วก็กลัว แล้วก็..”
ยูโตะก้มจูบริมฝีปากสวยเบาๆ เพื่อหยุดอาการลนลานนั้น
“เข้าใจแล้ว แต่ว่า..แค่ข้างนอกได้มั้ย ฉัน..ยามะจังที่เป็นแบบนี้ จะกลับตอนนี้คงไม่ได้แล้วล่ะ ..นะ ได้มั้ย”
“..สัญญาก่อนนะ”
“อื้ม! สัญญาเลย วันนี้วันเกิดยามะจังนี่นา”
ในเมื่อยูโตะรับปาก ร่างเล็กก็เป็นฝ่ายโน้มคอร่างสูงเข้ามาหา เพื่อรับจุมพิตดูดดื่มอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ร้อนแรง และวาบหวามกว่าเก่า ด้วยอารมณ์ที่ถูกจุดให้โชติช่วงขึ้น ทุกอย่างนั้นดำเนินต่อไปบนทางแสนหวาน ในแบบที่ควรจะเป็น …
“อรุณสวัสดิ์ เรียวสุเกะ”
“อืม..อรุณสวัสดิ์..”
มือหนาเกลี่ยปอยผมนิ่มไปทัดหูไว้ และลูบไล้แก้มเนียนเบาๆ คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย แต่พอสบสายตานั้นเข้า ความเขินอายจากเรื่องเมื่อคืนก็พุ่งเข้ามาจนตาสว่าง
มือเล็กรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าไว้อย่างรวดเร็ว
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อะไรเนี่ย ไม่ต้องเขินไปหรอกน่า เมื่อคืนยังร้องบอกฉันอยู่เลย ยูโตะ..เอาอีก”
“ไอ้บ้า! หุบปากนะ! ไม่ได้พูดซะหน่อย!!”
ยามาดะเปิดผ้าห่มออก พร้อมส่งกำปั้นเตรียมทุบคนชอบล้อเลียนข้างๆ แต่ก็ถูกหยุดด้วยมือหนา ตามมาด้วยการถูกกดลงเตียงและการถูกคร่อมจากคนตัวสูงด้วยสภาพล่อแหลม เพราะทั้งคู่ไม่ได้ใส่อะไรเลย
ใบหน้ายามาดะแดงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ก็มุ่งมั่นในการสบตาอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้
“วันนี้เราไปเที่ยวกันนะ ยามะว่างใช่มั้ย”
“อะ..อื้ม ว่าง”
“งั้นก็…ไปอาบน้ำกันเถอะ!!”
ไม่ว่าเปล่า คนตัวสูงกระโดดลงเตียง กระชากผ้าห่มออก พร้อมอุ้มยามาดะที่โวยวายวิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป
เป็นวันเกิดที่วุ่นวายมากจริงๆ แต่ก็มีความสุขมากเช่นกัน
ผมได้รับของขวัญแสนวิเศษ ที่ให้สัญญาได้ว่าจะดูแลผมไปตลอด…
แต่ผมก็จะดูแลรักษาของขวัญชิ้นนี้อย่างดีที่สุด ด้วยเหมือนกัน เพื่อที่จะได้อยู่ข้างๆกันตลอดไป
_________________________________________
แฮ่! ในที่สุดก็แต่งจนได้
เนื่องตอนแต่งนั้นใกล้วันเกิดยามะจัง เราก็เกิดมโนเห็นภาพขึ้นมาล่ะ คือเขียนตอนเที่ยงคืน เสร็จอีกทีตี2 ตาค้างนอนไม่หลับยันตี4
5555
ไงก็ฝากไว้ด้วยนะ ติชมได้เลยจ้า